จำนวนและการเริ่มต้นการเป็นผู้ปกครอง
๑. โดยปกติผู้ปกครองมีได้คราวหนึ่งเพียงคนเดียวเท่านั้น
เว้นแต่มีข้อกำหนด
พินัยกรรมของบิดาหรือมารดาระบุชื่อบุคคลให้เป็นผู้ปกครองไว้หลายคนหรือญาติของผู้เยาว์
หรืออัยการร้องขอโดยมีเหตุอันสมควรให้ตั้งผู้ปกครองหลายคน
(มาตรา ๑๕๙๐)
๒. ความเป็นผู้ปกครองเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ทราบคำสั่งศาล
(มาตรา ๑๕๙๑)
สิทธิและหน้าที่ระหว่างผู้ปกครองกับผู้อยู่ในปกครอง
๑.
ผู้ปกครองต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครอง
มิฉะนั้นอาจถูกศาลมีคำสั่งถอนผู้ปกครองได้ (มาตรา ๑๕๙๒)
๒. ก่อนศาลยอมรับบัญชีทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครอง
ผู้ปกครองจะทำกิจการใดไม่ได้ เว้นแต่เป็นการเร่งร้อนและจำเป็น
แต่จะยกข้อห้ามดังกล่าวขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนไม่ได้
(มาตรา ๑๕๙๕)
๓.
ถ้าผู้ปกครองมีหนี้ที่เป็นคุณหรือโทษต่อผู้อยู่ในปกครองต้องแจ้งให้ศาลทราบก่อนลงมือทำบัญชีทรัพย์สิน
ถ้าหนี้นั้นเป็นคุณแล้วมิได้แจ้งข้อความนั้นต่อศาลหนี้ของผู้ปกครองนั้นย่อมสูญไป
แต่ถ้าไม่เป็นโทษแล้วศาลจะสั่งถอนผู้ปกครองก็ได้ (มาตรา ๑๕๙๖)
๔.
ผู้ปกครองต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลที่สั่งเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินของผู้อยู่ในปกครองและจัดทำบัญชีทรัพย์สินส่งต่อศาลปีละครั้ง
(มาตรา ๑๕๙๗)
๕.
ผู้ปกครองมีฐานะทำนองเดียวกับบิดามารดาผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์
๖.
ผู้ปกครองต้องใช้จ่ายเงินได้ของผู้อยู่ในปกครองแต่เฉพาะเพื่อการอุปการะเลี้ยงดูและการศึกษาของผู้อยู่ในปกครองเท่านั้น
ถ้ามีเงินเหลือต้องนำไปลงทุนที่มั่นคงแสวงหาผลประโยชน์ต่อไป
ข้อสังเกต
ใช้จ่ายได้เฉพาะเพื่อการอุปการะเลี้ยงดูและการศึกษาของผู้อยู่ในปกครองเท่านั้น
หากมีเงินเหลือผู้ปกครองจะเอาไปใช้ส่วนตัวไม่ได้
ต่างกับผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรที่เป็นบิดามารดาใช้เงินของบุตรได้ตามสมควร
ถ้าบิดามารดาไม่มีเงินได้เหลือเพียงพอแก่การครองชีพตามสมควรแก่ฐานะ
๗.
ผู้ปกครองไม่มีสิทธิที่จะได้รับบำเหน็จเว้นแต่จะมีกรณีพิเศษ ดังนี้ (มาตรา
๑๕๙๘/๑๔)
(๑)
มีข้อกำหนดไว้ในพินัยกรรมให้ผู้ปกครองได้รับบำเหน็จ
(๒) ถ้าพินัยกรรมไม่ได้กำหนดบำเหน็จของผู้ปกครองไว้
แต่ไม่มีข้อกำหนดห้ามผู้ปกครองรับบำเหน็จ
ผู้ปกครองจะร้องขอต่อศาลให้กำหนดบำเหน็จในภายหลังก็ได้
ศาลจะกำหนดให้หรือไม่เพียงใดก็ได้
(๓)
ถ้าพินัยกรรมมีข้อกำหนดห้ามไว้ในพินัยกรรมมิให้ผู้ปกครองได้รับบำดหน็จ
หากต่อมาภายหลังจากที่ผู้ปกครองเข้ารับหน้าที่แล้ว พฤติการณ์ รายได้ หรือฐานะความเป็นอยู่ของผู้ปกครองหรือผู้อยู่ในปกครองได้เปลี่ยนแปลงไป
ผู้ปกครองอาจร้องขอต่อศาลขอให้สั่งให้บำเหน็จแก่ตนได้
(๔) ในกรณีที่ไม่มีคำสั่งตั้งผู้ปกครองไว้ในพินัยกรรม
และไม่มีข้อกำหนดห้ามผู้ปกครองรับบำเหน็จ
ศาลจะกำหนดบำเหน็จให้แก่ผู้ปกครองในคำสั่งตั้งผู้ปกครองก็ได้ หรือถ้าศาลมิได้กำหนด
ผู้ปกครองจะร้องขอต่อศาลให้กำหนดบำเหน็จในภายหลังก็ได้
ศาลจะกำหนดให้หรือไม่เพียงใดก็ได้
๘.
ผู้อยู่ในปกครองไม่มีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูผู้ปกครอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น