ข้อสังเกต
(๑)
แม้คู่สมรสอีกฝ่ายจะสุจริตโดยไม่ทราบว่ามีการสมรสเดิมอยู่แล้วก็ตาม
การสมรสนั้นก็ยังต้องเป็นโมฆะอยู่
(๒) คู่สมรสผู้ทำการโดยสุจริตไม่เสื่อมสิทธิที่ได้มาเพราะการสมรสนั้น
ก่อนที่จะรู้เหตุที่ทำให้การสมรสนั้นเป็นโมฆะ
(๓) กรณีชายหรือหญิงมีคู่สมรสแล้ว
แต่การสมรสนั้นเป็นโมฆะหรือโมฆียะ ชายหรือหญิงนั้นไม่อาจสมรสใหม่ได้
จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาว่าการสมรสนั้นเป็นโมฆะหรือเป็นโมฆียะเสียก่อน
๖. ชายหรือหญิงยินยอมเป็นสามีภรรยากัน
หากไม่มีเจตนาที่จะทำการสมรสกันจริงๆ การสมรสนั้นเป็นโมฆะตามมาตรา ๑๔๙๕
และบุคคลผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสระหว่างชายหรือหญิงนั้นเป็นโมฆะได้ตามมาตรา
๑๔๙๖ วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๑๒๗/๒๕๓๖ เมื่อคดีอาญาที่จำเลยทั้งสองถูกฟ้องเป็นเรื่องแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
ส่วนคดีนี้เป็นคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่าการสมรสของจำเลยทั้งสองเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งไม่ต้องอาศัยมูลความผิดทางอาญาฐานแจ้งความเท็จแต่อย่างใด
กรณีจึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
ศาลไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญาและมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ตามที่ปรากฏในสำนวนคดีแพ่งได้
เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีปรากฏว่าช่วงเกิดเหตุจำเลยที่ ๒
ยังอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายบ.ส่วนจำเลยที่ ๑ มีฐานะเป็นเพียงลูกจ้างของบุคคลทั้งสอง
การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันไปขอจดทะเบียนสมรสโดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่ามีเจตนาจะสมรสกันและต่างไม่เคยมีคู่สมรสมาก่อนจึงผิดไปจากเจตนาที่แท้จริง
และไม่น่าเชื่อว่าจำเลยทั้งสองยินยอมเป็นสามีภริยากันอันเป็นเงื่อนไขแห่งการสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๔๕๘
โจทก์จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสระหว่างจำเลยทั้งสองเป็นโมฆะได้
๗. หญิงหม้ายจะสามารถใหม่ได้ต่อเมื่อเวลาไม่น้อยกว่า
๓๑๐ วัน นับแต่วันที่ขาดจากการสมรสเดิมได้ล่วงพ้นไปเสียก่อน (มาตรา ๑๔๕๓)
แต่มีข้อยกเว้นให้หญิงหม้ายทำการสมรสได้ ๔ ประการคือ
(๑) หญิงนั้นได้คลอดบุตรแล้ว
(๒) หญิงนั้นสมรสกับสามีคนก่อน
(๓) มีใบรับรองแพทย์ว่าหญิงนั้นมิได้ตั้งครรภ์
(๔) มีคำสั่งศาลให้หญิงนั้นทำการสมรสได้
การสมรสที่ฝ่าฝืนนี้สมบูรณ์และบุตรที่เกิดมาภายใน ๓ๆ
วัน นับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นสามีคนใหม่ตามมาตรา
๑๕๓๗
๘.
ผู้เยาว์จะทำการสมรสได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง
การให้ความยินยอมมีอยู่ ๓ วิธีคือ
(๑)
ผู้ให้ความยินยอมลงลายมือชื่อในทะเบียนขณะจดทะเบียนสมรสเพื่อให้เป็นหลักฐานไว้
(๒) ทำหนังสือแสดงความยินยอมโดยระบุชื่อผู้สมรสทั้งสองฝ่าย
และลงลายมือชื่อของผู้ให้ความยินยอมไว้ด้วย
(๓)
เมื่อมีเหตุจำเป็นจะให้ความยินยอมด้วยวาจาต่อหน้าพยานอย่างน้อย ๒ คนก็ได้
ข้อสังเกต
กรณีบิดามารดาทำหนังสือให้ความยินยอมต่อมาบิดาหรือมารดาเสียชีวิตไปก่อน
เช่นนี้ก็สามารถใช้หนังสือยินยอมนั้นไปจดทะเบียนได้
แต่ถ้าตายทั้งคู่ถือว่าหนังสือให้ความยินยอมสิ้นผล
ต้องไปขอความยินยอมใหม่จากผู้ปกครองหรือขออนุญาตศาลให้ทำการสมรส
กรณีที่ฝ่าฝืนโดยทำการสมรสปราศจากความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
การสมรสนั้นย่อมเป็นโมฆียะตามมาตรา ๑๕๐๙
แบบของการสมรส
การสมรสจะมีได้เฉพาะเมื่อได้จดทะเบียนสมรสแล้วเท่านั้น
เมื่อได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วก็เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมายทันทีตามมาตรา ๑๔๕๗
ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา
ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยามี ๒ ประการ คือ
๑. ความสัมพันธ์ในการส่วนตัว
๒. ความสัมพันธ์ในทางทรัพย์สิน
๑. ความสัมพันธ์ในทางส่วนตัว
๑.๑
สามีภริยาต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาและช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามมาตรา
๑๔๖๑
การช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกัน หมายถึง
การช่วยปฏิบัติหน้าที่ในครอบครัวเพื่อให้ครอบครัวดำรงอยู่ได้ด้วยความผาสุก
การอุปการะเลี้ยงดู หมายถึง
การให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีพ ข้อความในสัญญาจะต้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือระบุให้ใช้กฎหมายของประเทศอื่นบังคับในเรื่องทรัพย์สิน
หากฝ่าฝืนเป็นโมฆะตามมาตรา ๑๔๖๕ วรรคสอง
- สัญญาก่อนสมรสทำได้แต่เฉพาะเรื่องทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาเท่านั้น
จะทำเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินไม่ได้ เรื่องใช้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
๑.๓ ทรัพย์สินที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดกหรือโดยการให้โดยเสน่หา
๑.๔ ทรัพย์สินที่เป็นของหมั้น
ของแทนสินส่วนตัว
ทรัพย์สินที่เป็นสินส่วนตัวนั้น
ถ้าได้แลกเปลี่ยนเป็นทรัพย์อย่างอื่นหรือซื้อทรัพย์สินอื่นมาด้วยเงินสินส่วนตัว
หรือขายสินส่วนตัวและได้เงินมา ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มานั้นเป็นสินส่วนตัวอยู่ตามเดิม
- กรณีที่ทรัพย์สินหายเงินที่มาแทนทรัพย์สินส่วนตัวนี้ถูกนำไปรวมกับสินสมรสแล้วเกิดเป็นทรัพย์สินขึ้นมาใหม่
จึงเป็นกรรมสิทธิ์รวมของสามีหรือภริยาตามสัดส่วนของสินส่วนตัวและสินสมรสในทรัพย์สินใหม่นั้น
- สินส่วนตัวถูกทำลายไปทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
แล้วได้ทรัพย์สินหรือเงินมาทดแทน ทรัพย์สินอื่นเงินที่ได้มานั้น เป็นสินส่ววตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น